คำว่า สายเลือดแท้/ สายเลือดนิ่ง/ สายพันธุ์แท้
3คำนี้แตกต่างกันอย่างไร? แล้วควรใช้แบบไหน?
มันอาจจะมีความหมายคล้ายกัน แต่ ถ้าศึกษาให้ดี มันมีบริบทในการใช้ การขยายความหมายของตัวมันเอง
พิจารณาดูตามเหมาะสม และเลือกใช้ให้ถูกต้องนะครับ
ใช้คำผิด ชีวิตเปลี่ยน มันคือความน่าเชื่อถือของคุณเองนะครับ
.
สายเลือดแท้.. ใช้เรียกกับกลุ่มสัตว์ชนิดที่เป็น ต้นกำเนิด หรือ เป็นสายเลือดที่มาจากแหล่งกำเนิดนั้นโดยตรง ไม่ได้ถูกปนเปื้อนทางสายเลือดหรือไม่มีการผสมสายเลือดชนิดอื่นเข้าไป มีความบริสุทธิ์ของสายพันธุ์ 100%
.
สายเลือดนิ่ง.. ใช้ได้ทั้งชนิด กลุ่มสายเลือดแท้ และสายเลือดผสม เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นจากการคัดเลือกปลาในกลุ่มนั้นแล้วนำมาพัฒนาสายพันธุ์ให้มีความนิ่งในสายเลือด ส่งต่อรูปแบบหรือสีสันที่เค้าตั้งใจคัดเลือกไว้ให้ส่งต่อไปยังรุ่นลูก ให้มีหน้าตาเหมือนกับพ่อแม่พันธุ์ดังเดิม ไปตลอด.
ซึ่งเราต้องศึกษาให้เข้าใจก่อนว่า
แบบไหนคือสายเลือดแท้
และแบบไหนคือสายเลือดผสม
ต้องทำความเข้าใจและสามารถอธิบายให้คนอื่นทราบได้อย่างชัดเจนนะครับ ถ้านำมาใช้ผิดประเภท หรืออธิบายให้คนอื่นเข้าใจผิด จะถูกผู้อื่นตัดสินคุณทันทีว่า มีความรู้จริง หรือ มั่วมากันแน่ ซึ่งความน่าเชื่อถือ เป็นเรื่องสำคัญนะครับ
โดยคำว่า สายเลือดนิ่ง..ความหมายคือ การพัฒนาสายพันธุ์โดยการควบคุม การคัดเลือก ลักษณะใด ลักษณะหนึ่ง ให้ได้เพียงชนิดเดียวที่ต้องการ แล้วทำการพัฒนาสายพันธุ์นั้น ให้มีลักษณะเหมือนเดิมกับรูปแบบที่คัดเลือกไว้ ให้ส่งต่อไปยังรุ่นลูก ต่อไปเรื่อยๆ โดยที่ทุกตัวต้องมีหน้าตาตรงกับพ่อแม่พันธุ์เสมอ จะมีเพียงลักษณะเดียวตามที่เลือกไว้เท่านั้น ในแต่ละรุ่นโดยไม่มีชนิดอื่นเกิดปนขึ้นมา นั่นเรียกว่า “สายเลือดนิ่ง”
แต่ในวงการสัตว์สวยงาม สายเลือดนิ่งที่พูดถึง มันควบคุมยาก เนื่องมาจากตัวแปรหลักที่สำคัญ คือ
“จิตสำนึกของผู้ขาย”
เราจะเห็นผู้ขายที่นำปลาที่สายเลือดนิ่ง 70% , 80%, 90% และ 100% มาขายโดยที่ไม่แจ้งลูกค้าให้ทราบรายละเอียด
ซึ่งผู้ขายที่ดี ควรต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบรายละเอียดนี้ ถ้ารับจากคนอื่นมาขายก็ต้องถามข้อมูลนี้มาด้วย จะได้ไม่เกิดปัญหาภายหลัง
โดยที่สายเลือดนิ่งที่ 70%,80%,90% เป็นชนิดและเกรดความนิ่งของสายพันธุ์ที่ คนส่วนมากในกลุ่มผู้ขายสัตว์สวยงาม เริ่มต้นในการจำหน่าย เป็นสายพันธุ์ใหม่ ที่อายุของสายพันธุ์นั้นๆยังน้อย ความสเถียรของสายเลือดก็น้อยด้วยเช่นกัน เนื่องจากเป็นของใหม่ที่เพิ่งพัฒนาขึ้นมาไม่นาน แล้ว.. รีบขายก่อนที่คนอื่นจะทำได้ แต่ความนิ่งระดับนี้ มีความสเถียรน้อย มักจะมีปลาที่หลุดเป็นชนิดอื่นๆ ปนมาในสายพันธุ์เสมอ จะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์ความนิ่งของชนิดนั้นๆ ซึ่งดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องปกติที่คนทั่วไปยอมรับได้ ถ้าคนที่ซื้อเข้าใจว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ทำออกมาใหม่ แล้วยังไม่มีที่ไหนมีขาย มาก่อนก็ได้ก่อน ที่เหลือก็ไปพัฒนาต่อเอาเอง ซึ่งคนขายต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบเสมอ
ส่วนสายเลือดนิ่งที่ 100% เป็นชนิดที่พัฒนามาจนสุดของสายพันธุ์นั้นๆแล้ว คือใช้เวลานาน พัฒนาสายพันธุ์จนได้ 100% รุ่นลูกที่ได้แทบจะไม่มีหลุดเป็นปลาชนิดอื่นเกิดขึ้นมาให้เห็นแล้ว นานๆครั้ง อาจจะมีหลุดมาได้เหมือนกัน แต่น้อยมากๆ สำหรับสายพันธุ์ที่นิ่งระดับ 100% นี้ จะตัดสินกันด้วยความสมบูรณ์และความสวยของปลา จะแบ่งเกรดตามความสวยเพื่อยกระดับของสายพันธุ์นั้นๆขึ้นไปอีก ยิ่งเกรดที่ทำออกมาสวยมากก็ราคาสูงกว่าแน่นอน เพราะขั้นตอนคัดเลือกมันยากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งปลาในกลุ่มนี้จะถูกแบ่งตามเกรดความสวย คือ..
เกรดธรรมดา/ เกรดสวย/ เกรดประกวด เป็นต้น
ซึ่งมูลค่าก็ต่างกันตามเกรดของชนิดนั้นๆ และเกรดความสวยนั้นเป็นตัวแบ่งชนชั้นของสายพันธุ์นั้นๆอีกด้วย
.
สายพันธุ์แท้.. คำนี้มักจะเป็นคำที่กำกวมครอบคลุมในหลายๆความหมายที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ และมักจะถูกนำมาใช้แบบผิดๆ ในการกล่าวอ้าง หรือ เหมารวม ใช้เพื่อการเคลมว่า ปลาชนิดนั้นๆ คือของแท้
ซึ่งคำนี้ มักจะเป็นกับดักสำหรับลูกค้าเสมอ
ซึ่งในส่วนนี้ ลูกค้า..ต้องมีความรู้ ความเข้าใจ กับสิ่งที่จะซื้อมาก่อน หรือ ลูกค้าต้องศึกษามาก่อน จึงจะเหมาะที่สุด
สำหรับลูกค้ามือใหม่ คำว่าสายพันธุ์แท้ มันคือกับดัก ที่คุณจะหลงเชื่อง่ายๆ จนกว่าคุณจะไปศึกษาเพิ่มเติมในภายหลังจนเข้าใจ จึงจะรู้ว่า ใช่ หรือ ถูกหลอก
ซึ่งคำว่าสายพันธุ์แท้นั้น มันเป็นคำเรียกแบบเหมารวม ใช้ได้ทุกบริบท (รวมถึง สายเลือดแท้ และ สายเลือดนิ่ง ตามที่กล่าวไป) คือเป็นคำพูดแบบเหมารวมว่า สิ่งนั้นเป็นของแท้ อย่างที่แอดมินเน้นย้ำเสมอว่า คำนี้มันเป็นกับดัก สำหรับคนที่ไม่รู้เสมอ..
ความหมายก็ตรงตัว สายพันธุ์แท้ ในชนิดนั้นๆ ไม่ว่าจะมาจากธรรมชาติ หรือ มนุษย์สร้างขึ้นมา สายพันธุ์แท้มันก็ใช้ได้กับ ชนิดนั้นๆ ได้เหมือนกัน โดยที่คุณต้องศึกษามาก่อนว่า มันเป็นสายพันธุ์แท้แบบธรรมชาติ หรือ สายพันธุ์ที่มนุษย์สร้างขึ้น
แต่ในปัจจุบัน คำว่าสายพันธุ์แท้ จะนำมาใช้เรียกควบคู่กับคำว่า สายเลือดนิ่ง อยู่เสมอ ซึ่งเป็นคำขยายความต่อมาจากคำว่า สายเลือดนิ่งนั่นเอง บ่งบอกว่า สายพันธุ์สายเลือดนิ่งนั้น ไม่ว่าจะผ่านมากี่รุ่น จะผ่านไปกี่ปี มันก็จะมีหน้าตาเหมือนเดิมเสมอ คงที่ ไม่เปลี่ยนไปเป็นแบบอื่น คือสายเลือดมันนิ่งมากๆ จนกลายเป็นสายพันธุ์แท้ แล้วนั่นเอง
.
ปัจจุบัน ยังมีการใช้คำเรียกแบบผิดๆ อยู่เสมอ ทั้งที่รู้ และ ไม่รู้ ที่ต้องหยิบมาเป็นประเด็น เพราะ... มันมีปัญหาตามมาเสมอ
ถ้าคนที่หยิบเอาคำเหล่านี้มาใช้ แล้ว ไม่สามารถอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจได้
ตัวอย่างเช่น..
การใช้คำเรียกผิดเริ่มต้นมาจากผู้ขาย เมื่อมีลูกค้ามาซื้อของต่อจากผู้ขายนี้ เค้าก็เอาชื่อและคำเรียกเหล่านี้ไปใช้ต่อเอาไปเรียกต่อหรือบอกต่อคนอื่น
สมมติมีลูกค้า 10คน 100คน คิดตามดูง่ายๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันเกิดการเรียกชื่อแบบผิดๆ ส่งต่อไปเรื่อยๆ และทำให้คนเข้าใจผิดมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน อย่าเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยนะครับ นานวันไป สิ่งที่เราเรียกกันผิดๆ มันก็จะเป็นสิ่งที่เราจดจำ แล้ว ถ้าไปอยู่ในกลุ่มที่มีคนรู้จริง คุณจะถูกตั้งคำถามและมันจะแสดงให้เห็นว่า คุณไม่มีความรู้กับสิ่งนั้นเลย นึกภาพตามดีๆนะครับ แต่ก็มีคนบางกลุ่มที่หลีกเลี่ยงคนที่เค้ามีความรู้จริงเข้ามาถาม ก็มักจะไม่พูดรายละเอียดของสิ่งนั้น หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูล แล้วก็ให้คนอื่นไปพิจารณาเอาเอง ซึ่งคนกลุ่มนี้ค่อนข้างเยอะครับ แต่มันไม่เกิดผลดีแน่นอน เพราะคุณจะถูกมองว่า ไม่มีความรู้กับสิ่งนั้นเหมือนกันครับ จะกลายเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือนะครับ
.
ดังนั้น การไม่มีความรู้กับสิ่งที่ทำหรือสิ่งที่ขายอย่างแท้จริง วันหนึ่งถ้าคุณพบเจอกับคนที่รู้จริงเค้ามาสอบถาม มาตั้งคำถาม หรือมาขอคำแนะนำกับคุณ วันนั้น คุณจะเข้าใจ แต่อย่าคิดว่า ช่างมัน.. เพราะเมื่อคนนั้นจากไป เค้าจะไปพูดต่อๆในกลุ่มอีกแล้วเล่าเรื่องของคุณออกไปอีกแน่นอน ถ้ามีกลุ่มลูกค้าคุณอยู่ในกลุ่มเหล่านั้นด้วย จะเกิดอะไรขึ้นก็คิดต่อกันเองได้เลยครับ
.
ดังนั้น...แนะนำ ขอให้ศึกษา เข้าใจ กับสิ่งที่ขาย แล้วคุณจะเป็นคนที่น่าเชื่อถือ จะได้ไม่มีปัญหาตามมาอย่างแน่นอนครับ