เล่าสู่กันฟัง...
แนวทางการช็อปปิ้งสัตว์เลี้ยงสวยงามในปัจจุบัน เทรนด์กำลังเปลี่ยนไป?
.
สมัยก่อน เราจะรู้และอัพเดทวงการสัตว์เลี้ยงสวยงามผ่านทาง
*กลุ่มผู้เลี้ยงที่รวมตัวกัน ทำเว็บไซต์หรือบล็อกเพื่อติดต่อ สื่อสาร แลกเปลี่ยนกัน คนที่สนใจก็จะไปรวมตัวกันที่นั่น
*ร้านค้าสัตว์เลี้ยง
*งานประกวด งานนิทรรศการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง
*รายการทีวี
*นิตยสาร และ หนังสือ
.
ปัจจุบัน เทคโนโลยีก็ทันสมัยขึ้นมาก โซเชียลมีเดีย คือแหล่งรวมตัวกันของทุกสิ่งอย่างที่เราอยากรู้ ก็ปรากฏให้เห็นอยู่ตลอดเวลา ผู้คนมีอิสระในการเลือกเสพเนื้อหาที่ชอบตามไลฟ์สไตล์ และกลุ่มของสัตว์สวยงามก็เช่นกัน
.
เราเข้าถึงและติดตามข่าวสาร อัพเดท ได้อย่างรวดเร็ว และที่สำคัญ กลายเป็นเวทีสำหรับโชว์ผลงานของแต่ละคนได้ง่ายมากๆ
เมื่อก่อนจะมีกลุ่มที่เรียกว่า “คนดังในวงการ” เป็นไอดอลของวงการ และมีผู้ติดตาม แฟนคลับ ที่ติดตามผลงานมากมาย
แต่พอในยุคการมาของโซเชียล เราจะได้เห็นการมาของกลุ่มคนที่มากฝีมือ ที่ไม่ได้ออกงาน ไม่ได้เป็นคนดังหรือมีชื่อเสียง เริ่มปรากฏตัวขึ้นมามากมาย จากการแสดงผลงานต่างๆ กลุ่มคนพวกนี้คือ มือสมัครเล่นที่รักในงานอดิเรกนั้นๆ บางคนก็เก่งมากๆ ไม่แพ้เหล่าคนดังเลยทีเดียว ผลงานก็ไม่ธรรมดาเลยเช่นกัน
.
ยกตัวอย่างเช่น ปลาหางนกยูง
เราจะเห็นสายพันธุ์ที่สวยขั้นเทพ งดงาม และเป็นผลงานของแต่ละคน ได้อวดฝีมือกัน ยิ่งแสดงความสวยงามของปลาชนิดต่างๆมากขึ้น ความต้องการของผู้เลี้ยง ผู้สนใจ มือใหม่ ต่างก็มีความต้องการอยากเลี้ยงด้วยเช่นกัน
.
แต่พอมาดูตามร้านค้าทั่วไป ที่มีขาย กลับเป็นปลาคนละเกรด เป็นปลาเกรดไม่ค่อยสวย และ ราคาถูก สังเกตดูว่า แต่ละร้านที่ขาย จะไม่มีปลาเกรดแบบเดียวกับที่คนดังคนมีฝีมือทำผลงานโชว์เอาไว้
จากความเห็นส่วนตัวมองว่า.. ร้านขายสัตว์เลี้ยง เค้าทำหลายอย่าง ขายสัตว์หลายชนิด อุปกรณ์ ยา สารพัดสิ่ง เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง น่าจะดูแลได้ไม่ทั่วถึง และปลาที่เค้ารับมาขายก็ไม่ได้เอาสายพันธุ์ที่เกรดสูงมาขาย เพราะราคาแพง น่าจะขายออกยาก จะเน้นราคาไม่แพง ซื้อมา - ขายไป ง่ายๆ ลดความเสี่ยงกรณีปลาตายที่ร้าน.. เพราะ ปลาหางนกยูง ถ้าดูแลไม่ดี จะหมดความสวยและบทที่จะตายก็ตายง่ายๆ แบบงงๆ เลยทีเดียว
ดังนั้น.. คนที่อยากได้ปลาเกรดสวยเลย อยากได้ตัวท๊อปๆ ก็ต้องไปติดต่อซื้อกับเจ้าของที่มีปลานั้นโดยตรง นั่นคือตัวเลือกที่ถูกต้อง และเริ่มเป็นเทรนด์ในการซื้อขายออนไลน์มาจนปัจจุบัน
“อยากได้ปลาสวยต้องซื้อกับเจ้าของโดยตรง”
ดังนั้น ตามร้านค้าทั่วไปจึงไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ กลายเป็นว่า ตามกลุ่มโซเชียลจะกลายเป็นตลาดปลาออนไลน์แบบใหม่ขึ้นมาแทน แค่เลื่อนหน้าจอโทรศัพท์มือถือดูสิ่งที่ชอบแล้วถูกใจ ก็ติดต่อไปหาซื้อกับเจ้าของโดยตรงได้เลย..
.
ข้อดีที่การซื้อขายแบบออนไลน์นี้เป็นที่นิยมคือ...
*เมื่อสินค้ามีปัญหา สามารถติดต่อกับเจ้าของได้โดยตรง และง่ายมากๆ
*ประหยัดเวลา ไม่ต้องเดินทางไปเลือกด้วยตัวเอง ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
*สามารถสั่งจองหรือเลือกแบบที่ต้องการได้ เท่าที่เจ้าของเค้ามีหรือหาให้ได้
ข้อเสียก็มีเช่นกันคือ...
*มิจฉาชีพที่แอบอ้าง ขโมยผลงานคนอื่นมาหลอกขาย ขายราคาถูกกว่าคนอื่นมากๆ สร้างตัวตนปลอมให้น่าเชื่อถือ
*การใช้หลักฐานการโอนเงินที่ไม่ตรงกับชื่อเจ้าของ หรือ หลอกให้โอนเงินไปบัญชีคนอื่นแล้วมีข้ออ้างมากมาย
*การส่งสินค้าไม่ตรงปก คุณภาพด้อยกว่าที่ตกลงกันไว้
*ได้เงินลูกค้าแล้วหนีหาย ปิดการติดต่อกับลูกค้าไปเลย
ซึ่งสำหรับข้อเสียนี้ สามารถป้องกันได้โดย...
*ซื้อจากคนที่มีความเคลื่อนไหว มีเครดิตดี น่าเชื่อถือ ตรวจสอบและติดตามผลงานได้จริง มีความรู้กับสิ่งที่ขายจริง
*เวลาโอนเงิน บัญชีต้องตรงกับผู้ที่เราติดต่อด้วย นั่นก็ทำให้เราไม่ต้องเสี่ยงกับการถูกหลอกง่ายๆ ต้องเช็คให้ดีก่อนทำการซื้อขายเสมอ
.
นี่คือเทรนด์ยุคใหม่ของวงการสัตว์เลี้ยง และเป็นเทรนด์การซื้อขายออนไลน์ที่มาแรงในยุคนี้ด้วยเช่นกัน อยากได้อะไร หาซื้อผ่านออนไลน์ มีครบ จบทุกอย่าง สั่งซื้อ / โอนเงิน / รอรับของอยู่บ้านสบาย
.
จากที่แอดมินสำรวจดูตามร้านค้าแถวบ้าน ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คนเข้าร้านน้อยลง เงียบเหงามากขึ้น ปลาที่เอามาเตรียมขายก็สั่งมาน้อยชนิดลงเรื่อยๆ หลายๆตู้ในร้านก็กลายเป็นตู้ว่างเปล่า เท่าที่แอดมินเดินดูของในร้านมันก็มีสิ่งที่บ่งบอกว่าเริ่มหมดยุคของร้านแบบนี้แล้ว ดูปลาตามตู้ต่างๆก็ดูแลไม่ค่อยดี ปลาที่เตรียมขาย เมื่อเก็บไว้นาน ขายไม่ออก มันก็มีทยอยตายไปบ้าง ที่เห็นชัดก็คือพวกปลากัดที่ตั้งตามขวดโหล บางตัวก็ตายโชว์คาขวดโหลเรียงกัน เจ้าของร้านก็ดูปล่อยๆ ไม่ค่อยมีใจที่จะทำร้านแล้ว...บางร้านที่พูดคุยกันก็บอกว่า จะซื้ออะไรก็ดูๆไว้ อีก 1-2 ปี จะไม่ทำร้านต่อแล้ว จะปิดกิจการไปทำอย่างอื่น ฟังดูแล้วก็แอบเศร้า แต่ก็นะ..ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ก็ต้องปรับตัวกันไป
.
สำหรับบางคนก็ยังนิยมหาซื้อตามร้าน อยากเห็นของจริง ได้จับ ได้เลือกของจริง ของบางอย่างก็ต้องเดินทางไปหน้าร้านโดยตรง เพื่อทำการตัดสินใจซื้อของผู้เลี้ยง
แต่ร้านค้าในปัจจุบัน ถ้าตามต่างจังหวัดก็น้อยลงเรื่อยๆ ถ้าเป็นสถานที่ที่เป็นจุดศูนย์รวมอย่างเช่นในกรุงเทพ ตลาดปลาจัตุจักร สนามหลวง ตลาดปลาราชบุรี และตลาดสัตว์เลี้ยงที่เป็นศูนย์กลางขนาดใหญ่ ก็ยังเป็นที่นิยมอยู่ แต่คงลำบากสำหรับคนต่างจังหวัด การเดินทางไม่ง่ายและยังต้องมาเจอปัญหารถติดและอากาศร้อน.. ก็ต้องหาทางเลือกที่เหมาะสมและสะดวกสำหรับแต่ละคน..
.
เอาตามที่ท่านสะดวกครับ..